สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ทุกท่าน เชื่อว่ากระแสของการ Remake เกมเก่า ๆ นั้นก็ยังคงเรียกความสนใจให้กับเหล่าแฟนเกมเก่าได้อย่างล้นหลาม โดยเฉพาะกับเกมเก่า ๆ ที่มีอายุหลายสิบปี การได้กลับมาเล่นเกมที่พวกเขารักในกราฟิกเจนใหม่ก็ถือว่าเป็นความสุขที่คุ้มค่าจริง ๆ และจากเทรนด์ที่มีการรีเมค Final Fantasy VII ไปหลายภาค แฟน ๆ ต่างก็เรียกร้องให้รีเมค Final Fantasy IX บ้าง จนคุณ Yoshi-P ต้องออกมาบอกว่าถ้ารีเมค Final Fantasy IX คงไม่จบในภาคเดียวเพราะเนื้อหาเยอะ ซึ่งพอเห็นอย่างนั้นผมก็รู้สึกว่าน่าจะจริง เพราะ Final Fantasy IX ก็เป็นภาคที่มีเนื้อหาอัดแน่น และสมเหตุสมผลที่มันจะเป็นอย่างนั้น เราไปชมกันครับว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้ Final Fantasy IX ไม่สามารถ Remake จบในภาคเดียว
1. เนื้อเรื่องของเกมภาคต้นฉบับที่ปาเข้าไป 4 แผ่น PS1
หากใครยังจำได้นะครับ เกม Final Fantasy IX ในภาคต้นฉบับของ PS1 จะมีแผ่นเกมถึง 4 แผ่นด้วยกัน เอาแค่เนื้อเรื่องอย่างเดียวก็มีเยอะจนเล่นไปหลายสิบชั่วโมง แถม Final Fantasy IX ยังเป็นภาคที่โฟกัสไปที่ธีม Fantasy เยอะกว่าภาคก่อน ๆ มีสถานที่ให้ไปหลายแห่ง และมีรสชาติของอารมณ์ที่ครบครัน เพราะฉะนั้นการที่จะให้จบภายในเกมภาคเดียวก็ดูจะนานเกินไปหน่อย เพราะถ้าย่อเนื้อหาเกมลงมาให้เล็กลงแฟนเกมน่าจะมีหัวร้อนกันแน่นอน ดังนั้นผมจึงมองว่าถูกแล้วที่ Yoshi-P จะมองว่าเนื้อหามันคงไม่จบในภาคเดียวครับ
2. แผนที่โลกอันกว้างใหญ่ที่มีแผ่นดินถึง 4 ทวีป
เนื้อเรื่องในเกม Final Fantasy IX นั้น โลก Gaia มีแผ่นดินอันกว้างใหญ่ถึง 4 ทวีป ได้แก่ ทวีปแห่งหมอก ทวีปภายนอก ทวีปที่สูญหาย และทวีปที่ถูกลืม กว่าเราจะได้เล่นและเดินทางไปแต่ละทวีปได้ก็ต้องผ่านเนื้อเรื่องมาค่อนข้างเยอะ แถมแต่ละทวีปยังมีคอนเทนต์เฉพาะประจำสถานที่นั้น ๆ อยู่เต็มไปหมด ทั้งคอนเทนต์ที่บังคับเจอในเนื้อเรื่อง และคอนเทนต์ที่เราต้องเดินไปค้นเจอด้วยตัวเอง แถมเกมภาค 9 นี้ยังมีการใช้พื้นที่ในโลก Gaia ได้อย่างคุ้มค่ามาก ๆ ด้วยครับ
3. มีคัตซีนอลังการงานสร้างอยู่หลายฉากในเรื่อง
ด้วยเนื้อเรื่องไซส์ยักษ์ของธีมแฟนตาซีในภาค 9 นี้ ทำให้เนื้อเรื่องของเกมเองก็มีความยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสงครามระหว่างเมืองต่าง ๆ การใช้เวทมนตร์ขนาดยักษ์ โลกใต้ดิน ปีศาจที่น่ากลัว บรรยากาศสถานที่ เมืองโบราณ จุดจบของโลก แน่นอนว่าอะไรที่มันยิ่งอลังการก็ยิ่งทำให้คัตซีนและฉากต่าง ๆ นั้นมีความใหญ่และทำยากมากขึ้นไปด้วย จึงไม่น่าแปลกที่ตัวเกม Remake ของ Final Fantasy IX จะไม่สามารถปิดจบได้ในภาคเดียวครับ
4คำพูดจาก ปั่นสล็อตแตกทุกเกม. ตัวละครเยอะ พากย์เสียงเยอะ ปริมาณไฟล์เสียงก็เยอะ
ยิ่งเนื้อเรื่องของเกมมีปริมาณมากเท่าไหร่ จำนวนของตัวละครภายในเกมก็มีปริมาณมากเท่านั้น หากย้อนกลับไปในสมัยก่อน การที่ตัวละครต่าง ๆ พูดคุยกันด้วย Text เพียงอย่างเดียวก็อาจจะทำให้ใส่ตัวละครมาเยอะ ๆ ได้ แต่ในยุคปัจจุบันที่เกมต่าง ๆ มักจะแข่งขันกันด้าน Cinematic Content ที่จำเป็นต้องมีการพากย์เสียงตัวละครเข้าไป นั่นก็ยิ่งทำให้ไฟล์เสียงต่าง ๆ มีปริมาณที่เยอะขึ้นตามไปด้วย การพากย์ให้ครบทุกตัวละครว่ายากแล้ว หากมีการเปลี่ยนแปลงได้หลายภาษาก็ยิ่งทวีปริมาณไฟล์เข้าไปอีก นั่นทำให้เกมจะใหญ่ขึ้นอีกครับ
5. คอนเทนต์ย่อย ปริศนา มินิเกม บอสลับ ขนมาเพียบ
ด้วยธีมแฟนตาซีและโลกกว้างใหญ่ของภาค 9 ทำให้คอนเทนต์ต่าง ๆ ภายในเกมก็อัดแน่นไปด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นมินิเกมขุดสมบัติของ Chocobo ที่มีสมบัติลับซ่อนอยู่ทั่วทุกมุมโลก หรือจะเป็นบอสลับที่จะต้องขึ้นไปสู้บนสวรรค์ หรือเป็นเมืองลับแลที่ไม่สามารถเจอได้จากเนื้อเรื่องแต่ต้องขี่ยานไปพบแล้วเดินเข้าไปเอง ไหนจะมีเกมการ์ด หรือมินิเกมเก็บเหรียญของเมืองเทรโน่ และอื่น ๆ อีกมากมายที่ซุกซ่อนอยู่ในโลกอันแสนกว้างใหญ่แห่งนี้ ถ้าเอามาหมด จบไม่ลงในภาคเดียวแน่ครับ
และนี่ก็คือ “5 ปัจจัยที่ทำให้ Final Fantasy IX อาจจะต้องทำเป็นหลายพาร์ทหาก Remake” เป็นยังไงบ้างครับตรงกับสิ่งที่เพื่อน ๆ คิดกันบ้างหรือเปล่า ผมเองก็เป็นคนหนึ่งนะครับที่เป็นแฟน FF9 แต่ก็อย่างที่คุณ Yoshi-P ได้ว่าเอาไว้แหละครับ ถ้าเกิดว่า Remake ออกมาจริง ๆ เราก็น่าจะได้เล่นกันไป 2-3 ภาคยาว ๆ เหมือนภาค 7 Remake นั่นแหละ 🙂
ebayreddit1reddit2fandomyoutubeFinal Fantasy Final Fantasy IX